10 วิธี เพื่อสุขภาพจิตดีเหมือน แมว
ความเครียดเล่นงานคุณจนหัวหมุนไปแล้วหรือยัง? มาลองฟังวิธีคลายเครียดจากสุดยอดผู้เชี่ยวชาญเรื่องไม่เครียดอันได้แก่...เจ้าเหมียวของคุณ ฟังแล้ว ชวนงงใช่ไหมล่ะเพราะวันๆเห็นมันเอาแต่นอน พอตื่นมาก็กิน เลียขน นั่งชมนกชมไม้ แล้วก็กลับไปนอนใหม่ แต่ช้าก่อน...ลองมองใหม่ให้ดี เจ้าการ์ฟิลด์ ของคุณอาจเป็นสุดยอดกรณีตัวอย่างให้คุณฝึกละลายความเครียดเลียนแบบมันได้ เรื่องนี้มีงานวิจัยมายืนยันว่าการเลี้ยงแมวสามารถผ่อนคลายจิตใจของ คุณได้อย่างคาดไม่ถึง บางคนถึงกับเปรียบการดำรงชีวิตของแมวเหมือนกับ "วิถีแห่งเซน" เลยทีเดียว ถึงตอนนี้คุณพร้อมจะเรียนรู้ 10 วิธีเพื่อสุขภาพจิตดี เหมือนแมวหรือยัง เอาล่ะ ฟังนะ (เมี้ยว...)
1. แมวเป็นครูสอนโยคะโดยธรรมชาติ เจ้าเหมียวของเรารู้ดีถึงประโยชน์ของการยืดตัว พอเช้าขึ้นเราจึงเห็นว่าก่อนมันจะลุกออกจากเตียงนอนของคุณ มัน จะยืดตัวโชว์ซะหนึ่งรอบก่อน โดยเริ่มจากกดหัวให้ต่ำลง เหยียดขาหน้า แล้วยกก้นโด่ง มันจะอยู่ในท่านี้หลายวินาทีเพื่อให้ได้ประโยชน์จากการยืดทั้ง ตัวอย่างเต็มที่ จากนั้นมันก็ขยับไปออกกำลังกล้ามเนื้อชุดอื่นต่อไปก่อนจะลุกออกจากเตียงไปได้ สำหรับแมวส่วนใหญ่แล้วจะฝึกความยืดหยุ่นของร่างกาย มันตั้งแต่เป็นลูกแมวไปจนเป็นแมวใหญ่เลยทีเดียว
บทเรียนที่ 1 พอนาฬิกาปลุกคุณดังขึ้น ก่อนจะลุกจากเตียงให้คุณยืดตัวให้เต็มเหยียด โดยนอนราบ เหยียดขา ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ หายใจเข้าลึกๆ แล้ว หายใจออกช้าๆ ในขณะที่พยายามยืดตัวตั้งแต่ส่วนหัวลงสู่เท้า ในใจให้คิดแต่เรื่องยืดตัวและความรู้สึกดีๆที่ได้ปลุกกล้ามเนื้อให้ตื่นขึ้น
2. แมวรู้ดีถึงอำนาจการบำบัดด้วยสัมผัส พวกมันรู้ว่าเมื่อไรที่มันต้องการให้คนกอด ที่สำคัญมันไม่อายที่จะร้องขอ แต่รูปแบบการกอดที่มันเรียกร้องอาจ แสดงออกมาเดินมาเอาตัวเบียดขาคุณ กระโดดผลุงขึ้นมานอนบนตัก หรือเอาเท้ามาเขี่ยมือคุณเพื่อเรียกร้องความสนใจ
บทเรียนที่ 2 หาเวลาว่างไปนวดตัวเพื่อสุขภาพบ่อยๆ คุณจะมีท่วงท่าที่ดีขึ้น ลดความเครียดของกล้ามเนื้อที่คอและหลังลง รวมทั้งยังเป็นการกระตุ้นการไหล เวียนของเลือดอีกด้วย
3. แมวเข้าใจคุณค่าของการใช้เวลาส่วนตัว แมวไม่เหมือนหมาที่จะคอยมาคลอเคลียอยู่กับเจ้าของตลอดเวลา มันมักจะหาโอกาสปลีกวิเวกอยู่เสมอ การ์ตูนการ์ฟิลด์คงเป็นตัวอย่างที่ดีเพราะเราจะเห็นเจ้าการ์ฟิลด์เดินหนีเจ้าของมันอยู่เรื่อย
บทเรียนที่ 3 คนเราไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเวลาส่วนตัว ทั้งที่จริงแล้วมันแสนจะจำเป็นสำหรับการชาร์จแบตให้ตัวเรา หมอจึงแนะนำว่าเราควรหาเวลาพัก ตอนกลางวันอย่างน้อยห้านาที หามุมสงบที่ไม่มีอะไรมากวนใจ รวมทั้งอย่าลืมปิดโทรศัพท์มือถือด้วยล่ะ!
4. แมวรู้ประโยชน์ของการนอนเพิ่มพลัง โดยทั่วไปแล้วแมวจะนอนวันละ 16 ชั่วโมง! จึงไม่น่าแปลกใจที่คุณอ่านการ์ตูนการ์ฟิลด์ทีไรก็ต้องเห็นมันนอนอยู่ ทุกที แต่พอมันตื่นปุ๊บ แววตามันจะสดใสและกระตือรือล้นไปหาอะไรสนุกๆทำทันที
บทเรียนที่ 4 เวลาที่คุณนอนหลับ ร่างกายของคุณจะใช้เวลานี้เพื่อเติมพลังงานให้ความชุ่มชื่นกลับคืนมา ถึงแม้หมอจะแนะนำให้นอนวันละ 8 ชั่วโมง แต่ดู เหมือนตารางประจำวันของเรานั้นไม่อนุญาตให้ทำอย่างนั้นได้ แต่บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ของโลกหลายคนก็เป็น "นักนอน" ผู้ยิ่งใหญ่เช่นกัน คุณอาจลองเอาอย่าง โทมัส เอดิสันด้วยการหาเวลางีบสัก 10 นาทีหลังอาหารเที่ยง ตื่นขึ้นมาคุณจะดูมีชีวิตชีวาขึ้นหลายปีเลยทีเดียว แต่ข้อควรระวังคือถ้าคุณงีบเกิน 20 นาที ก็ มีความเสี่ยงที่คุณจะหลับลึกแล้วตื่นขึ้นมาในสภาพงัวเงียเชื่องช้าแทนที่จะกระฉับกระเฉงเหมือนคนงีบน้อยๆ
5. แมวเข้าใจคุณค่าของการกินดี ในขณะที่หมาจะสวาปามทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่แมวนั้นขึ้นชื่อลือชาในความช่างเลือกกินของมัน อย่างไรก็ดี อาหารสุด โปรด 2 ชนิดของเจ้าเหมียวสัญชาติฝรั่งคือปลาแซลมอนและปลาทูนานั้นเต็มไปด้วยสารโอเมกา 3 และ 6 ซึ่งช่วยบำรุงสมอง แม้จะไม่มีงานวิจัยในปลาทู ของโปรดแมวไทย แต่เชื่อใจได้ว่าคุณค่าอาหารไม่แพ้กันแน่
บทเรียนที่ 5 คุณควรรับประทานเนื้อปลาให้มากขึ้น และกินพวกอาหารขยะจานด่วนทั้งหลายให้น้อยลง คอเลสเตอรอลในเลือดของคุณจะต่ำลงและหัวใจจะ แข็งแรงขึ้น
6. เมื่ออยู่ในเหตุการณ์น่ารำคาญใจ แมวจะเดินหนี ถ้ามีเด็กกำลังแหกปากร้อง เครื่องดูดฝุ่นเสียงระคายหู หรือมีแขกผู้เอาแต่พูดพูดพูดมาใกล้ๆ รับรองได้ ว่าแมวจะเลือกการเดินหนีไปหามุมสงบใหม่ในบ้าน ไม่ใช่ว่ามันแสดงกริยาหยาบคายหรอกนะ แต่เป็นเพราะมันเข้าใจตัวมันดีว่าไม่เห็นจำเป็นต้องทน เหตุการณ์แบบนี้เลย
บทเรียนที่ 6 หมอพบว่าแมวมักจะเดินหนีจากสถานการณ์ที่กวนใจแทนที่จะเลือกการเผชิญหน้า มันจะไปหาที่ใหม่ซึ่งใช้พลังงานและก่อความเครียดน้อย กว่า แม้ว่าคนเราจะหลีกหนีเรื่องที่เราไม่ชอบได้ทุกครั้งไป แต่อย่างน้อยเราควรเรียนรู้จากแมวที่จะเดินหนีเรื่องบางเรื่องบ้าง ซึ่งคงดีกับร่างกายและจิตใจ เรามากกว่า
7. แมวมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน แมวส่วนใหญ่มีสุขภาพจิตดี มันใช้ชีวิต อย่างมีความสุข ไร้ความกังวล มองโลกอย่างสดใส ไม่มีวันที่เราจะได้ยินข่าวแมวขี้ ระแวงที่ไหนมาบอกว่ามีคนประสงค์ร้ายจ้างคนมาด่ามันบนรถแท็กซี่!
บทเรียนที่ 7 มนุษย์เราหมกมุ่นอยู่กับความคิดทำนองว่า "ถ้ามันเป็นอย่างนั้นแล้ว..." หรือ "เราน่าจะได้..." มากเกินไป การยึดติดกับอดีตหรือกังวลกับ อนาคตเกินเหตุเป็นอันตรายต่อสุขภาพจิตของเราอย่างยิ่ง หมอจึงแนะว่าเราควรอยู่กับปัจจุบันให้ได้และอะไรจะเกิดก็รับมือไปตามเหตุการณ์จะดีกว่า
8. แมวจริงใจกับความรู้สึก มันอยากได้อะไรมันก็จะขอ (ขอปลาอีกตัวเถอะ...ขอร้อง) หรือถ้ามันชอบอะไร มันก็ไล่ตามอย่างไม่ลดละ เช่นเวลามันรอท่าหรือ ไล่ล่าเจ้าจิ้งจกโชคร้าย
บทเรียนที่ 8 คนเราจะเครียดน้อยลงถ้ารู้จักสื่อถึงความต้องการของตัวเราเองได้มากขึ้น บ่อยครั้งที่เราลังเลไม่กล้าเรียกร้อง อาจเป็นเพราะเราไม่เห็นถึง คุณค่าในตัวเราเองเหมือนที่แมวเห็น เราอาจคิดว่าเราไม่คูควรกับสิ่งนั้นสิ่งนี้หรือการที่เราขออาจรบกวนคนอื่น แมวไม่ใช่อย่างนั้น มีอะไรมันก็บอก ถ้าไม่ ได้อย่างที่ต้องการ มันก็ไปทำอย่างอื่นต่อไป ง่าย ตรงไปตรงมา และน่าเอาอย่างเป็นที่สุด
9. แมวมีสุขอนามัยที่ดี คุณเคยเห็นอะไรบ่อยกว่า? แมวขนกระเซอะหรือคนผมกระเซิง? แมวไม่มีวันเป็นแบบนั้นหรอกเพราะวันวันมันจะนั่งเลียทำความ สะอาดขนของมันให้สะอาดเงางามอยู่เสมอ
บทเรียนที่ 9 เวลาที่เราอาบน้ำหรือสระผม ความรู้สึกดีๆจะเกิดขึ้นทั้งภายนอกและภายในร่างกายของเรา สารแห่งความสุขจะหลั่งออกมาให้เห็นเป็นรอยยิ้ม อันสดใสบนใบหน้าเรา
10. แมวไม่ใช่พวกวัตถุนิยม เวลาคุณช็อปของเล่นใหม่ที่ทั้งทันสมัยและแพงแสนแพงมาให้แมวของคุณ คน(หรือตัว)ที่ตื่นเต้นกับมันอาจไม่ใช่เจ้าเหมียว แต่เป็นตัวคุณซะมากกว่า เพราะมันอาจพอใจของถูกๆแต่เล่นสนุกกว่าเป็นไหนๆอย่างเช่นม้วนกระดาษทิชชูหรือมือของคุณที่เล่นซ่อนอยู่ใต้กระดาษหนังสือ พิมพ์
บทเรียนที่ 10 การตามแฟชั่นจะสร้างความเครียดทั้งต่อกระเป๋าเงินและจิตใจของคุณ ถ้าคุณมีชีวิตเพื่อแสวงหาสิ่งที่ "ใหม่สุด" หรือ "ดีสุด" อยู่ตลอดเวลา ก็ เป็นการแสวงหาที่คุณจะไม่มีวันค้นพบมันอย่างแท้จริง คำแนะนำคือคุณควรซื้อหาสิ่งที่คุณคิดว่ามีคุณค่ากับคุณ มากกว่าซื้อเพียงเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณนั้น เป็นคนทันสมัยไม่ตกเทรนด์
เห็นรึยังว่าเป็นแมวนั้นมัน ส บ า า า ย ขนาดไหน ลองทำตามวิถีของแมวข้างต้นดู แล้วคุณจะรู้ว่าทั้งกายและใจของคุณสบายขึ้น ที่สำคัญมันอาจช่วยเพิ่ม เสน่ห์ให้จนคนข้าง ๆ หลงรักก็ได้ ใครจะไปรู้!
ขอขอบคุณ
http://tripleheart.spaces.live.com/blog/cns!A8F781BD298F4EF9!457.entry?sa=457537276