ชนิดของอาหาร
การเลี้ยงแมวตามบ้านคนส่วนใหญ่ ซึ่งเจ้าของมีฐานะความเป็นอยู่แบบไทย ๆ ทำให้แมวเป็นสัตว์ที่กินง่าย เจ้าของแมวส่วนมากมักเลี้ยงแมวด้วยอาหารในครัว อาจเป็นปลาคลุกกับข้าว หรือไข่ต้มหรือน้ำแกงจืด ซึ่งแมวก็อยู่ได้ แต่ถ้าเลี้ยงกันดีเป็นพิเศษหรือเข้าอกเข้าใจแมว อาจมีการเสริมอาหารประเภทเนื้อ นม เสริมให้กิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของที่มีฐานะดีหรือเลี้ยงแมวตามหลักการ อาหารการกินก็เปลี่ยนไปเป็นอาหารคุณภาพ ซึ่งก็เป็นผลดีแก่ตัวแมวและเจ้าของดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
สำหรับชนิดของอาหารแมวนั้น สามารถแบ่งออกได้ 3-4 ประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่เราซื้อหามาปรุงเอง อาหารสำเร็จหรืออาหารสำเร็จรูป ซึ่งอาหารเหล่านี้ก็แตกต่างกันไปในแง่ของรสชาติ คุณภาพ ราคาและคุณค่าของอาหาร ผู้เลี้ยงสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม
อาหารปรุงเอง
การปรุงอาหารขึ้นเองสำหรับให้แมวกินตามบ้านเป็นเรื่องปกติสำหรับการเลี้ยวแมวทั่ว ๆ ไป แต่ถ้าต้องการให้อาหารถูกส่วนถูกกับความต้องการของแมวโดยซื้อมาปรุงให้ตามสุตร ต้องเข้าใจถึงหลักโภชนาการมาก่อนจึงทำได้เพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากและค่อนข้างละเอียด เราต้องคำนวณทั้งอัตราส่วนและปริมาณของสารอาหารที่เหมาะสมตรงตามความต้องการของแมวในแต่ละวัย นอกจากนี้อาหารที่ปรุงเองก็ยังมีรสชาติไม่แน่นอน เช่น เค็มหรือหวาน รสชาติอาจไม่ถูกปากแมว อาจจะมีไขมันมาก ถ้าใส่ข้าวมากก็จะขาดวิตามิน ถ้าใส่เนื้อมากเกินไปก็จะได้รับโปรตีนเกินความจำเป็น ทำให้ย่อยยากกระเพาะต้องทำงานหนัก สิ่งเหล่านี้ต้องคำนึง
อาหารสด
เป็นอาหารผสมเสร็จ มักพบในตู้แช่แข็งตามซุปเปอร์มาร์เก็ต อาหารสดผสมเสร็จนี้บางชนิดก็มีคุณค่าทางอาหารครบ แต่บางชนิดก็ไม่ครบ เวลาที่จะให้แมวต้องปรุงให้สุกเสียก่อน ราคาจะถูกกว่าอาหารสำเร็จรูปชนิดอื่นเล็กน้อย แต่มีข้อเสียคือต้องเก็บไว้ในช่องแช่แข็งตลอดเวลาเพราะเป็นอาหารสดจึงเสียง่าย ต้องซื้อบ่อย ๆ และนอกจากนี้อาหารผสมเสร็จยังมีคุณค่าทางอาหารน้อยกว่าอาหารสำเร็จรูป
อาหารแห้ง
จะมีลักษณะเป็นเม็ดกลมประกอบด้วยธาตุอาหาร และวิตามินแร่ธาตุต่าง ๆ ที่แมวต้องการอย่างเหมาะสม ส่วนประกอบของอาหารเม็ดโดยมากก็มาจากเนื้อสัตว์ เพียงแต่เอามาแปรรูปผ่านกระบวนการบดและอบแห้ง มีคุณค่าของโปรตีนประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอัตราส่วนที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของแมวในการนำไปใช้สร้างความเจริญเติบโต นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนประกอบของไขมันที่ช่วยสร้างพลังงานและความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย มีวิตามินที่ช่วยให้แมวมันมีขนยาวสวยได้
ที่พิเศษก็คือมีไฟเบอร์ที่จะช่วยให้แมวท้องไม่ผูก
อาหารแห้งสามารถซื้อเก็บไว้ได้คราวละมาก ๆ เพราะไม่บูดเสีย สามารถทิ้งไว้ให้แมวกินได้ตลอดทั้งวันเมื่อมีความจำเป็นต้องออกไปนอกบ้าน นอกจากนี้อาหารแห้งยังมีประโยชน์ช่วยขัดฟันของแมวให้สะอาด เพราะเป็นเม็ดกรอบและการเคี้ยวอาหารแห้งก็เป็นการบริหารเหงือกให้แข็งแรงอีกด้วย
การให้แมวกินอาหารแห้ง ทางที่ดีควรหัดให้กินตั้งแต่เล็ก ๆ หลังอย่านมใหม่ ๆ หรือประมาณ 2 เดือน โดยผสมอาหารแห้งในน้ำนม เมื่อโตได้ประมาณ 3 เดือนจึงให้กินอาหารแห้งล้วนๆ เพียงอย่างเดียว
แต่สำหรับแมวที่ไม่เคยกินอาหารแห้งมาก่อน การเปลี่ยนมาให้กินอาหารแห้งโดยฉับพลันทันทีทันใดก็ทำให้ท้องเสียได้ เพราะระบบย่อยของแมวนั้นอ่อนไหวและผิดปกติได้ง่ายมาก
ฉะนั้นอาจค่อย ๆ เปลี่ยนโดยเอาหารแห้งคลุกผสมกับอาหารเดิมที่เคยกินที่ละน้อยก่อน หรืออาจผสมอาหารแห้งในน้ำ นม หรือน้ำแกง เพื่อให้อาหารเม็ดนิ่มขึ้น เมื่อแมวเริ่มชินแล้วจึงเปลี่ยนมาเป็นอาหารแห้งเพียงอย่างเดียว
ประการสุดท้ายสำหรับการเลี้ยงแมวด้วยอาหารแห้งก็คือ อย่าลืมว่าอาหารแห้งนั้นมีน้ำเป็นส่วนประกอบไม่เกิน 10 เปอร์เซนต์เท่านั้น เมื่อแมวกินอาหารแห้งจะกลืนไม่ค่อยสะดวกทำให้คอแห้งหิวน้ำ ดังนั้นควรจะมีถ้วยใส่น้ำสะอาดตั้งไว้ข้างชามอาหารเพื่อให้แมวกินได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
ขอขอบคุณ ข้อมูลดีๆจาก http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=wimzaa&group=20