อะสุโกะ ไซโตะ (Atsuko Saito) และ คาซุทากะ ชิโนซูกะ (Kazutaka Shinozuka) นักวิจัยของมหาวิทยาลัยโตเกียวได้
ทำการทดสอบและเก็บข้อมูลจากแมวบ้าน 20 ตัวเป็นระยะเวลา 8 เดือน ด้วยการเปิดเทปเสียงเรียกชื่อของเจ้าของและอาสาสมัครอีก 3 คนให้แมวฟัง แล้วนำปฏิกิริยาการตอบรับมาวิเคราะห์ ทั้งการกระดิกหู การแกว่งหาง การหันหน้าหาตำแหน่งของเสียง การขยายของม่านตา และการเคลื่อนไหว โดยพบว่าแมว 15 จาก 20 ตัวมีปฏิกิริยาต่อเสียงของเจ้าของมากกว่าเสียงของอาสาสมัครทั้ง 3 คน ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าแมวสามารถจดจำและจำแนกเสียงของเจ้าของออกจากเสียงของคนอื่นได้ แต่จะไม่ยอมเดินไปหาหากไม่เห็นตัว แม้จะรู้ว่าเจ้าของกำลังเรียกอยู่ก็ตาม
วิธีฝึก
1. ตั้งชื่อให้สั้นและเรียกง่าย
แน่นอนว่าเมื่อมีเจ้าเหมียวเป็นของตนเองแล้ว เจ้าของทุกคนคงอยากจะคิดชื่อเพราะ ๆ ให้พวกมัน
แต่ความจริงแล้วแมวไม่ได้อยากได้ชื่อเพราะ ๆ หรอกนะ เพราะแมวชอบให้ตั้งชื่อสั้น ๆ สัก 1-2 พยางค์และเรียกง่าย ๆ
ก็พอแล้ว
2. ฝึกให้แมวจำชื่อตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ
ถ้าคุณเริ่มเลี้ยงแมวตั้งแต่ยังเป็นแมวตัวเล็ก ๆ ควรจะรีบฝึกให้แมวจำชื่อตั้งแต่ตอนนี้เลย เพราะได้ผลดีกว่าการฝึกแมวโต
ซึ่งนอกจากจะฝึกยากกว่าแล้ว บางทีแมวโตอาจไม่ให้ความร่วมมือเลยก็ได้
3. อย่าลืมให้รางวัล
วิธีที่ดีที่สุดในการเรียกความสนใจจากแมวคือการให้รางวัล ด้วยการเรียกชื่อพร้อมยื่นขนมให้แมวประมาณ 2-3 ครั้งติดกัน
แล้วเดินห่างออกมาอีกหน่อยแต่ทำเหมือนเดิม จนกว่าแมวจะเดินเข้ามาหาของกิน จากนั้นทำซ้ำวิธีเดิมวันละ 2-3 ครั้งไปเรื่อย ๆ
จนกว่าแมวจะจำชื่อตัวเองได้
4. เลี่ยงการใช้น้ำเสียงดุหรือด่า
แม้แมวจะทำเป็นไม่สนใจ เช่น ฝึกให้วันนี้พรุ่งนี้ก็ลืม แต่อย่าเพิ่งโมโหหรือใส่อารมณ์จนเผลอดุหรือด่าแมวออกไป
เพราะไม่อย่างนั้นจะทำให้แมวกลัวและไม่กล้าเดินเข้ามาหาตอนคุณเรียกชื่อ
5. เปลี่ยนตำแหน่งการเรียกชื่อ
เมื่อฝึกจนแมวสามารถจดจำชื่อของตัวเองได้แล้ว ควรจะเปลี่ยนตำแหน่งเรียกให้ไกลกว่าเดิมและกระจายไปตามจุดต่าง ๆ
ภายในบ้าน จนกว่าจะครบทุกมุมและสามารถเรียกแมวจากตรงไหนในบ้านก็ได้
6. สอนให้คุ้นเคยกับเสียงทุกคนในบ้าน