อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยชายถูกแมวข่วนป่วยเนื้อเน่าไม่ได้ถูกตัดขา 
					
						เตือนอย่าชะล่าใจหากถูกสุนัข-แมวกัดหรือข่วน รีบล้างแผลและพบแพทย์ทันที
					
						นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวผู้ป่วยชายไทย
					
						อายุ 63 ปี ถูกแมวข่วนแล้วไม่ได้ล้างทำความสะอาด ต่อมามีอาการไข้ หนาวสั่น ขาบวม
					
						และมีบาดแผลเน่าลุกลามนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ป่วยถูกแมวกัดบริเวณขาขวามา 
					
						1 สัปดาห์ก่อนมาโรงพยาบาล เมื่อเข้ารับการรักษาแพทย์ตรวจร่างกายผู้ป่วยพบรูแผลเล็กๆบริเวณเท้าขวา ผลเลือดพบการทำงานของไตบกพร่อง น้ำตาลในเลือดไม่สูง 
					
						เกร็ดเลือดต่ำกว่าปกติ แพทย์จึงได้ทำการผ่าตัด 2 ครั้งในเวลา 3 วัน 
					
						เนื่องจากแผลมีการลุกลามมากขึ้น ทั้งนี้ แพทย์ได้ฉีดวัดซีนป้องกันบาดทะยัก 
					
						และวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
					
						จากการวินิจฉัยพบว่าผู้ป่วยเป็นโรคเนื้อเน่า หรือเรียกว่า เนคโครไทซิ่ง แฟสไซติส (Necrotizing fasciitis) ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อที่ผิวหนังและชั้นไขมันใต้ผิวหนังอย่างรุนแรง 
					
						ส่วนใหญ่เกิดจากแผลเล็กๆ จึงไม่ได้ให้ความสนใจทำความสะอาด 
					
						เมื่อเชื้อโรคเข้าไปในแผลจะทำให้เกิดการอักเสบ ลุกลามได้ง่าย
					
						 ส่วนผู้ป่วยรายนี้ ปัจจุบันอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ผู้ป่วยรู้สึกตัวดีและ
					
						ไม่ได้ถูกตัดขาตามที่มีข่าวลือ แต่อาจต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกหากมีเนื้อตายเพิ่ม
					
						หากผู้ป่วยแผลไม่มีเนื้อตาย การติดเชื้อหายแล้ว แพทย์จะทำศัลยกรรมปลูกถ่ายผิวหนัง
					
						เพื่อปิดแผล ต่อไป
					
						นายแพทย์เจษฎา กล่าวอีกว่า จากกรณีดังกล่าวจะเห็นได้ว่าผู้ป่วยไม่ได้เข้ามารับการรักษาในทันที
					
						จึงทำให้เกิดการลุกลามของบาดแผล และอาจติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจากการถูกแมวข่วนได้
					
						 ทั้งนี้สาเหตุการติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า ส่วนใหญ่เกิดจากการถูกสุนัขหรือแมวกัด-ข่วน
					
						แล้วไม่ได้รับการดูแลรักษาหรือเข้ารับฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างถูกต้อง 
					
						ดังนั้น กรมควบคุมโรค ขอแนะนำประชาชนว่า หากถูกสุนัขหรือแมวที่สงสัยว่าเป็นโรคกัด 
					
						ข่วน เลีย น้ำลายกระเด็นเข้าทางตา ปาก หรือทางผิวหนังที่มีบาดแผล อย่าชะล่าใจ 
					
						ควรรีบปฐมพยาบาล ล้างแผลทันทีด้วยน้ำและฟอกด้วยสบู่หลายๆ ครั้ง 
					
						แล้วเช็ดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโพวีโดนไอโอดีน ถ้าไม่มีให้ใช้แอลกอฮอล์ 70% 
					
						หรือทิงเจอร์ไอโอดีน จากนั้นไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที
					
						นอกจากนี้ ขอให้กักขังสัตว์ที่กัดสังเกตอาการอย่างน้อย 10 วัน
					
						หากสัตว์ตัวนั้นมีอาการปกติแสดงว่าไม่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า แต่หากสุนัขหรือแมวเสียชีวิต
					
						ให้รีบแจ้งกรมปศุสัตว์หรือสถานเสาวภาเพื่อส่งตรวจหาเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าทางห้องปฏิบัติการ
					
						ที่สำคัญหลังจากถูกกัด ควรรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างต่อเนื่องครบชุดตามเวลาที่แพทย์นัด
					
						สำหรับการป้องกันโรค ขอให้เจ้าของพาสุนัขของตนเองไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เมื่อสุนัขมีอายุ 2-3 เดือนขึ้นไป และฉีดวัคซีนเป็นประจำทุกปี 
					
						รวมถึงหากพบเห็นสัตว์ที่สงสัยว่าอาจเป็นโรคพิษสุนัขบ้า คือมีอาการหางตก เดินโซเซ
					
						น้ำลายย้อย ลิ้นห้อย ตาขวาง ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ หรือผู้นำชุมชน
					
						โดยโรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน ระยะฟักตัวของโรคมีตั้งแต่ 1 สัปดาห์
					
						หรืออาจนานเกิน 1 ปี กระทรวงสาธารณสุข ได้ระบุให้โรคพิษสุนัขบ้าเป็น 1 ในโรคที่ต้องเฝ้าระวัง
					
						และรายงานต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558
					
						หากพบมีผู้ป่วยต้องแจ้งให้กระทรวงสาธารณสุขทราบทันที
					
						ทั้งนี้ โรคพิษสุนัขบ้าสามารถพบได้ตลอดทั้งปี ซึ่งโรคนี้ยังไม่มีทางรักษาให้หายได้ 
					
						ผู้ป่วยจะเสียชีวิตทุกรายหากติดเชื้อและมีการแสดงอาการแล้ว 
					
						ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422
					
						 
					
						http://health.sanook.com/6085/